วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Search engine

      Search engine คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นข้อมูลต่างๆ บนทางระบบอินเตอร์เน็ต สำหรับ search engine ยังครอบคลุมทั้งการดาวน์โหลด ข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว ดูเพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข่าวสาร และอื่นๆของผู้ที่ต้องการค้น ในแต่ละโปรแกรมก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกันไป และการแสดงผลลัพธ์ก็แตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน

            ตัวอย่าง Search engine
-        Google
-        Yahoo
-        Kapook
-        4shared
-        Sanook

เทคนิคการ search ขั้นสูง    
            1. ให้เข้าตรงถึงแหล่งสารสนเทศจากผู้ผลิตสารสนเทศที่เชี่ยวชาญเฉพาะ
    ให้เข้าตรงถึงแหล่งสารสนเทศจากผู้ผลิตสารสนเทศที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน  สมาคมวิชาชีพเฉพาะโดยตรง (straight to the source)  เช่น  ถ้าจะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาของมรภ.พระนครน่าจะเข้าไปยัง www.pnru.ac.th ให้ค้นหาข้อมูลได้โดยตรง   
 2. การทายหรือเดา URL(Guessing URLs)
    การทายหรือเดา URL (Guessing URLs) การคิดว่าข้อมูลนี้ของแหล่งสารสนเทศที่คิดว่าน่าจะมีข้อมูลตรงกับที่ต้องการ โดยเริ่มต้นด้วย www จากนั้นเป็นคำย่อของหน่วยงานนั้น และต่อด้วย Domain และประเทศที่ตั้ง ตัวอย่าง URL ของหน่วยงานประเภทต่าง ๆ เช่น
      มรภ.พระนคร    =   www.pnru.ac.th
3. การค้นหาจากบัญชีหัวเรื่อง (Subject Directory)
    การค้นหาจากบัญชีหัวเรื่อง  (Subject Directory) เป็นการให้เริ่มต้นด้วย Search Site ที่มีบัญชีหัวเรื่องไว้ให้  เช่น  Yahoo การค้นอย่างรวดเร็วในหัวเรื่องที่จัดจำแนกไว้แล้วอาจมีโอกาสจะช่วยให้เข้าถึงหน้าสำคัญของแหล่งข้อมูลนั้นได้  อาจแบ่งตามลักษณะคำถามต่าง ๆ ดังนี้
                        3.1 ในการค้นหาจากหัวข้อกว้าง ๆ  (Broad Topics)  ควรค้นจากบัญชีหัวเรื่องที่จัดจำแนกลำดับชั้น
                        3.2 ในการค้นหาข่าว หรือ เหตุการณ์ปัจจุบัน (Current Events)  การค้นหาข่าวจะได้ผลดีหากค้นจากเครื่องมือช่วยค้นประเภทนี้  Yohoo  จัดหัวข้อข่าวไว้ที่  Hot News ภายในหัวข้อใหญ่ News Media
                          3.3 ในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์  (Product Search)  สามารถใช้บัญชีหัวเรื่องสืบค้นได้จากรายชื่อบริษัทผู้ผลิตอุตสาหกรรม บริษัทผู้จัดจำหน่าย บริษัทผู้ขาย  เป็นต้น 
              4. กลยุทธ์ในการใช้เครื่องมือช่วยค้น(Search Engine Strategies)
    กลยุทธ์ในการใช้เครื่องมือช่วยค้น  (Search Engine Strategies) ปกติแล้วผู้ที่เริ่มหัดใหม่ในการสืบค้นข้อมูล WWW มักจะใช้วิธีนี้คือ  Search Engines ช่วยค้นหา URL ของแหล่งสารสนเทศที่ต้องการ ฉะนั้นในการค้นวิธีนี้ควรมีเทคนิคในการสืบค้นในแต่ละคำถามแตกต่างกันไป ซึ่งอาจแยกรายละเอียดได้ดังนี้
                        4.1 คำถามที่มีความหมายเฉพาะเป็นหนึ่งเดียว  (Unique Keywords)  ลักษณะคำถามเช่นนี้จะช่วยให้การค้นได้ผลดีเมื่อต้องสืบค้นจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่  คำสำคัญที่เป็นชื่อเฉพาะ เช่น ชื่อยา ชื่อสินค้า เป็นต้น
                        4.2  การใช้กลุ่มคำ  หรือ วลี (Phrase Searching Search Engine) บางชื่อสามารถให้สืบค้นโดยใช้กลุ่มคำ (วลี) เช่น AltaVista การค้นวลี ให้ใช้เครื่องหมายในคำพูด ผลของการค้นจากกลุ่มคำนั้น เป็นการจำกัดคำตอบให้แคบลงมาดีพอสมควร
                        4.3 การค้นโดยใช้เขตข้อมูล  (Field Searching)  เขตข้อมูลที่สำคัญของแต่ละแหล่งข้อมูลน่าจะหมายถึง  ชื่อเรื่อง (Title) และ URLs  ฉะนั้นการสืบค้นที่สามารถระบุถึงชื่อเรื่องและ URL ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้การสืบค้นถูกต้องมากยิ่งขึ้น 
                        4.4 การจำกัด (Limits) การค้นใน AltaVista (advanced search) สามารถระบุช่วงเวลาเพื่อเป็นการจำกัดของการสืบค้น  โดยระบุให้ได้ข้อมูลที่เป็นหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลครั้งล่าสุด
            5. กลยุทธ์แบบหลายขั้นตอน (Multiple Strategy)
    กลยุทธ์แบบหลายขั้นตอน (Multiple Strategy) ปกติแล้วการที่จะประสบความสำเร็จในการสืบค้นสารสนเทศบน  WWW  มักต้องใช้ความพยายามหลายครั้งจากลักษณะของเอกสารที่เป็นแบบไฮเปอร์เท็กซ์ คือมีการเชื่อมโยงไปมาฉะนั้นจากผลลัพธ์ในคำตอบแรกอาจจะไม่ให้คำตอบ แต่เอกสารที่เชื่อมโยงต่อไปจุดนี้อาจมีคำตอบ เป็นต้น ในฐานข้อมูลเว็บขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่มีการจัดลำดับความถูกต้องของผลลัพธ์ตามหลักคณิตศาสตร์ไว้ให้เพื่อเป็นการช่วยให้ผู้ค้นเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุด 

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข้อดีของ blog และ web blog ที่รู้จัก

 ข้อดีของ blog
         1. เปิดตัวเองให้โลกรู้ เรื่องของ blog มักเป็นเรื่องราวของเจ้าของ blog เป็นการเล่าประสบการณ์หรือความคิดของเจ้าของ  เป็นการระบายความเคลียดอีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการติดต่อสื่อสารกับผู้คน ได้พบปะผู้คนที่มีอุดมการณ์เดียวกันและได้มาร่วมเสวนากัน
          2.ทันข่าวทันเหตุการณ์ ประสบการณ์บางคนก็เป็นข่าวเห็นอีกหลายคนได้ ข่าวจาก blog หลายแห่งเป็นข่าววงใน บางคนเล่าเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมา  เป็นการนำเสนอข้อความขอความช่วยเหลือ และยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ในด้านมุมมมองต่างๆ
          3. กลั่นกรองข้อมูล blog จะมีการกลั่นกรองข้อมูลก่อนนำลง blog ทำให้ผู้อ่าน blog ไม่ต้องเสียเวลาในการกลั่นกรองข้อมูล เพราะมีการนำเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในการท่องเว็บได้ ไม่ต้องจับใจความสำคัญและได้สาระที่ตรงกับความต้องการของผู้อ่านอีกด้วย
          4. รายงานการท่องเว็บ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่เป็นต้นกำเนิดของการทำ blog หลาย blog มีการลิงก์ไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน blog ซึ่งเป็นการแนะนำว่าเว็บไหนที่น่าสนใจและให้ความรู้เพิ่มเติมแก่เรื่องราวที่เกิ่นมาได้
          5. การแสดงความคิดเห็น ความคิดเชิงสร้างสรรค์ การทำ blog เป็นช่องทางถ่ายทอดความคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้ได้ โดยเป็นการแสดงความคิดเห็นอีกทางหนึ่ง และเป็นการเปิดช่องทางการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
          6. ถ่ายทอดประสบการณ์ หรือไดอะรี่ออนไลน์ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำวัน หรือเป็นการเล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว และยังเป็นหนังสืออิเล็คทรอนิคส์ที่เราไม่ต้องซื้อหา เพียงเพื่อหาประสบการณ์ จากเรื่องราวที่ผู้สร้าง blog ได้กลั่นกรองขึ้น
          7. โน้มน้าวใจผู้อ่าน ลักษณะนี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นการขายความหรือเนื้อหาเป็นส่วนใหญ่ เพราะผู้ที่มีความสนใจในเรื่องนี้ก็สามารถมาสืบค้นได้ แต่อาจจะเป็นแนะวิธีต่างๆในเรื่องที่ผู้สืบค้นสนใจ
  
     Web blog ที่รู้จัก
จากการที่ได้กล่าวมาถึงข้องดีของ Blog แล้ว เรื่องราวที่ข้าพเจ้าสนใจก้อคือ บันทึกการเดินทางของ 9MOT  เป็นทางไปท่องเที่ยวบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดภูเก็ต เรื่องราวที่เขาได้เล่าบรรยายนั้น อ่านแล้วมีความรู้ศึกว่าได้เข้าไปอยู่ร่วมวงกะพวกเขา พวกเขาเก็บภาพมามากมาย ได้เห็นมุมมองของหมู่เกาะสุรินทร์ที่สวยงาน อาหารรสเลิศ และแสงอาทิตย์ยาม พลบค่ำ จึงอยากให้ผู้ที่อยากไปเที่ยวได้มีแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เป็นการพักผ่อนในแบบสบายกระเป๋าไม่ต้องเสียเงินไปต่างประเทศเลย ได้เห็นบรรยายในประเทศไทยที่ใครเห็นต้องเป็นที่อิจฉาอย่างแน่นอน
สนใจอ่านเพิ่มเติมที่ http://blog.tourismthailand.org/ninemot/